Review ครีมกันแดด Invisible Sun Protection Spf33 PA+++ และ Aloe Vera &Snail Serum Soothing gel จาก Cathy Doll

สวัสดีค่า ช่วงนี้เจอกันรัวๆ กับ #reviewbypaiko

วันนี้ทาง Revu และ Cathy dollส่งผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้ไพลอง 2ตัว

นั่นก็คือครีมกันแดด Invisible Sun Protection Spf33 PA+++ และ Aloe Vera &Snail Serum Soothing gel

ก่อนที่จะเข้าสู่การรีวิวนะคะ ไพอยากให้ทุกคนทราบถึงความสำคัญของการทาครีมกันแดดกันค่ะ

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า

“The best anti-aging skincare  for everyone is sunscreen!”

ครีมบำรุงผิวต่อต้านริ้วรอยที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนคือ ครีมกันแดด!

ไพขอบอกนะคะว่าคำพูดนี้อาจจะฟังดูเว่อ แต่ ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใดค่ะ! (ผ่าง! เอฟเฟคเหมือนตอนโคนันหรือคินดะอิจิพูดว่า คนร้ายอยู่ในหมู่พวกเรานี่แหละ!)

เพราะ ภัยร้ายใกล้ตัวเราอาจจะอันตรายจนเราคาดไม่ถึง ทั้งฝุ่น ทั้งมลภาวะ ทั้งแสงแดดและรังสียูวี ทุกตัวล้วนเป็นตัวกระตุ้น ทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ได้ทั่งสิ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สิว ฝ้า กระ ริ้วรอย หรือแม้กระทั่งมะเร็งผิวหนัง!!

ไพจะอธิบายให้ฟังง่ายๆ เกี่ยวกับรังสีUV และครีมกันแดดนะคะ

รังสีมี 2ประเภท คือ UvA แบะ UvB

UvA ให้คิดถึง Aging เป็นตัวการทำให้เกิดริ้วรอย

UvB ให้คิดถึง Burn มีความร้อน ทำให้ให้ผิวเปลี่ยนเฉดสี เข้มขึ้น

• ถ้าถามว่าตัวไหนอันตรายกว่ากัน UvA อันตรายกว่าค่ะ เพราะรังสีตัวนี้ สามารถทะลุลึกไปถึงชั้นผิวด้านใน แล้วไปทำลายอีลาสตืนในผิว ส่งผลทำให้เกิดริ้วรอยร่องลึกนั่นเอง
• แต่UvB ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ปัญหาผิว ที่เกี่ยวกับเม็ดสีเมลานินทั้งหมด เช่น ความเข้มของสีผิว ฝ้า กระ หรือแม้กระทั่งผิวไหม้ค่ะ
• ซึ่ง UvBนี่ไม่จำเป็นต้องมาจากพระอาทิตย์อย่างเดียวนะคะ ความร้อนจากหลอดไฟ หรือความร้อนหน้าเตา ก็ทำให้เม็ดสีผิวเข้มขึ้นได้เช่นกันค่ะ

แล้วใครกันคือฮีโร่ที่จะปกป้องผิวเราจากอันตรายทั้งหมดนี้ ใช่แล้วค่ะ “ครีมกันแดด” นั่นเอง

ทุกคนคงจะเคยเห็น คำว่า Spf และ PA+++ บนฉลากของครีมกันแดด อาจจะสงสัยว่าคืออะไร ไพจะอธิบายให้ฟังค่ะ

Spf และ PA คืออะไร

Spf ย่อมาจาก Sun Protect Factor คือค่าที่วัดว่าครีมตัวนี้ สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้นานกี่นาที ชั่วโมง โดยที่ผิวไม่ไหม้ (ใช้กันรังสี UvB ค่ะ)

เคยเห็นบางตัวมี Spf 100 จะเยอะไปไหน เกินจำเป็นไปเนอะ อยากบอกว่าการตลาดทั้งนั้น เพราะปกติเราใช้ Spf 30-50 ก็เพียงพอแล้วค่ะ

PA คือค่าที่วัดการป้องกันรังสี UvA ยิ่งเราเห็นเครื่องหมาย + มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกันUvA ได้ดีเท่านั่น ปัจจุบันที่เป็นมาตรฐานเลยคือ PA+++ (3อัน) เคยเห็นมากสุดคือ PA++++ (4อัน)

ไพเคยอ่านหนังสือการดูแลผิวของญี่ปุ่น เค้าบอกว่า

ผู้หญิงอายุเท่ากัน 2คน คนนึงทากันแดดเป็นประจำทุกวัน อีกคนหนึ่งไม่ทาครีมกันแดด ทาแต่ครีมบำรุง

10 ปีผ่านไป คนที่ทากันแดดทุกวัน มีผิวที่อ่อนเยาว์กว่าค่ะ

เพราะเหตุนี้แหละค่ะ ครีมกันแดดราคาไม่แพง ช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยได้ดีกว่าครีมบำรุงราคาเป็นหมื่นซะอีกค่ะ

ถ้าคุณทาบำรุงอย่างดีครบทุกอย่าง ทุกขั้นตอน แต่..ไม่ทาครีมกันแดด…ถือว่าผิด!

อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหนไม่ทาครีมกันแดดก็ได้ ..ถือว่าผิด! อย่าลืมนะคะว่าทุกทีมีรังสีUv กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ

อ้อที่สำคัญ ทุกครั้งที่ใช้กันแดด อย่าลืมเช็ดผิวด้วยCleansingล้างเครื่องสำอางก่อน แล้วค่อยล้างหน้าตามปกตินะคะ เพราะว่ากันแดดก็จัดเป็นเครื่องสำอางตัวหนึ่งเหมือนกันค่ะ

โอเค ต่อไปนี้สัญญาว่า จะทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อปกป้องผิวให้หน้าเด็กเป็นเป็นสาวสองพันปีกันนะคะ 😊

กันแดด Invisible Sun Protection Spf33 PA+++ ตัวนี้เค้าบอกว่า เป็นทั้ง

• Uv Protection
• Dust Protection
• Infrared Protection

คือสามารถกันแดด กันฝุ่น กันความร้อนได้

เปิดฝามาซีลไว้อย่างดีค่ะ

เนื้อสัมผัสเป็นครีมเจลสีสีขาว เนื้อบางเบาค่ะ

กลิ่นเหมือนครีมกันแดดปกติ ไม่มีกลิ่นน้ำหอมค่ะ

พอเกลี่ยก็จะซึมไว ไม่ทิ้งคราบหรือความมันไว้ให้เห็น ให้รำคาญเลยค่ะ

ดูสิคะ บางเบา สบายผิวสุด❤️

สรุปว่ากันแดดตัวนี้ไพให้สามผ่านนะคะ ผ่านทั้งการปกป้องผิว ไม่มีกลิ่นน้ำหอม และเนื้อสัมผัสที่สบายผิวไม่ทิ้งความมัน

ให้คะแนน 8/10 ไปเลยค่ะ

มาต่อกันที่อีกตัวหนึ่ง Aloe Vera &Snail Serum Soothing gel

สรรพคุณตัวนี้เรียกได้ว่า ครอบจักรวาล 55

เพราะสามารถใช้ได้ตั้งแต่ ผิวหน้า ผิวกาย เส้นผม ข้อศอก โห all in one

Aloe Vera ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย

Snail Mucus เมือกหอยทาก มีสรรพคุณ เสริมสร้างความแข็งแรงของผิว สร้างเกราะให้ผิว ลดรอยแดง และจุดด่างดำ ไปพร้อมกับบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

ทั้งสองส่วนผสมนี้ผสานกัน ทำให้ผิวทั้งชุ่มชื้น แข็งแรง และกระจ่างใส

สามารถใช้ทาผิวที่แสบร้อนจากการไหม้แดด เพื่อบรรเทาความแสบร้อน และลดรอยแดงไปพร้อมกัน

โห สรรพคุณมากมายจริงๆ

ซีลไว้เรียบร้อยค่ะ

เนื้อเป็นเจลใสๆ เย็นๆ หอมๆค่ะ

พอทาแล้วก็ซึมอย่างรวดเร็ว รู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีเลยค่ะ

เจลตัวนี้ ไพเห็นนักเรียนใช้ทาหน้าหลังจากล้างเครื่องสำอางแทนmoisturizer ปกติในช่วงที่ผิวเค้ารู้สึกระคายเคือง เค้าบอกว่าใช้ตัวนี้แล้วไม่แพ้ ผิวหายแดง และรู้สึกสบายผิวดีค่ะ

ไพเองลองใช้แล้วก็ชอบค่ะ รู้สึกเย็นๆสบายผิว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่ช่วงนี้ผิวค่อนข้างปกติไม่มีแพ้อะไร เลนเห็นผลมากสุดก็คือความชุ่มชื้นค่ะ
ให้คะแนน 8/10 เช่นกันค่ะ

ไพขอขอบคุณทาง Cathy Doll และ Revu Thailand ที่ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ไพลองนะคะ

🙏🏼😊

แล้วเจอกันใหม่โพสหน้าค่ะ
see you
xoxo,Paiko

Review FUN FUN GGum Long Lash Mascara

Helloooo

วันนี้มารีวิวมาสคาร่า FUN FUN GGum Long Lash Mascara กรี้ดด 55 ตามหาเธอมานาน

Review J.Cats wonder lip paint

สวัสดีค่าา

กลับมาแล้วกับ #reviewbypaiko

วันนี้ไพจะมารีวิว J.Cats wonder lip paint เป็นลิปผสมเองที่อยู่ในรูปแบบหลอดนะคะ

มีทั้งหมด 4 สีค่ะ

Review Bobbi Brown Nourishing Lip Color Oil-Infused Shine (THAI Ver.)

สวัสดีค่ะ วันนี้ได้ฤกษ์อัพเดท ละช่วงนี้เรายุ่งมากกก จริงๆ อาจจะอัพเดทช้าหน่อยน้า

ไม่นานมานี้ทางBobbi Brown Thailand เค้าให้ลิปสติกสูตรใหม่มาลอง ตื่นเต้นมาก กรี้ดๆ
รุ่น Nourishing Lip Color Oil-Infused Shine เราคิดว่าน่าจะเป็นสูตรที่พัฒนามาจาก Lipshine รุ่นเดิมนะ

แต่รุ่นนี้น่าจะมีการบำรุงมากกว่า

Cr.BOBBI BROWN THAILAND

 

สำหรับลิปสติกตัวนี้นะคะ คุณป้าบ๊อบบี้เค้าก็ได้ให้คำนิยามว่า

“ลิปสติกสูตรนี้ คือการผสมผสานระหว่างเม็ดสีกับเบสที่เป็นน้ำมันธรรมชาติ มอบเนื้อสัมผัสอันสมบูรณ์แบบและทันสมัยในแบบที่ฉันหลงรัก” — Bobbi Brown

ฟังแล้ว อู้หู้วว เนอะ ลองมาอ่านข้อความจากทางแบรนด์กันค่ะ

ลิปสติกอันล้ำสมัยสูตรใหม่ล่าสุดของบ็อบบี้ บราวน์ ด้วยคุณค่าของน้ำมันที่มอบความชุ่มชื้นจากธรรมชาติถึง 5 ชนิดที่ผ่านการคัดสรรด้วยมือของบ็อบบี้เอง ผสานกับวิตามิน C และ E ผลิตภัณฑ์นี้จึงมอบเนื้อสัมผัสที่เรียบลื่น ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเปล่งประกายเป็นพิเศษ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้บนเรียวปากได้สูงสุดถึง 24 ชั่วโมง ทั้งยังช่วยปรับสภาพริมฝีปากด้วยคุณค่าบำรุงเข้มข้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่องในการช่วยให้ริมฝีปากเนียนนุ่มน่าสัมผัส ดูเรียบและอิ่มเอิบ แม้หลังจากลบลิปสติกออกแล้ว

ทำงานอย่างไร

ให้ความชุ่มชื้นทั้งในทันทีที่ใช้และในระยะยาว

มอบคุณค่าบำรุงจากน้ำมันธรรมชาติของพืชพรรณ 5 ชนิด ได้แก่ Olive Oil Complex, Avocado, Babassu, Jojoba และ Cocoa Seed Butter พร้อมคุณค่าวิตามิน C และ E จึงช่วยเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกโดยการสร้างปราการกักเก็บความชุ่มชื้น ฟื้นบำรุงได้แม้ริมฝีปากที่แห้งเป็นขุยให้กลับเนียนนุ่มและดูสุขภาพดี ด้วยน้ำมันที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับที่อยู่ในผิวของคนเรา Nourishing Lip Color จึงช่วยปรับสภาพและบำรุงริมฝีปากที่แห้งได้ทั้งในทันทีที่ใช้และในระยะยาว ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบนเรียวปาก 

ให้สีสันเด่นชัด

เม็ดสีชนิดเข้มข้นผสานอยู่ในเบสชนิดน้ำมันเนื้อบางเบา จึงให้สีสันที่บริสุทธิ์ เด่นชัด และเจิดจ้า ทั้งยังเคลือบริมฝีปากได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบ

วิธีใช้: ทาโดยตรงจากแท่งบนริมฝีปากเปลือยเปล่าที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว

เฉดสี: Beige Gold, Almost Pink, Ballerina Pink, Blush, Desert Rose, Island Pink, Pink Pop , Uber Rose, Bright Raspberry, Pink Slipper, Citrus, Poppy, Suntan Pink, Claret, Berry, Black Plum, Cosmic Peony, Sweet Apricot, Rosebud และ Coral Pop

ราคา: 1,200 บาท

 สมแล้วที่เป็นป้าบ๊อบบี้ ออกลิปใหม่มาทีนึง สีเยอะมากกกก
เดียวไพจะSwatch ลงบนปากไพเองให้ดูนะคะ ว่าสีสันจะสดชัดตามที่ว่ามามั้ย 

บอกก่อนว่า ไพสีผิวกลางๆ ไม่ขาว ไม่คล้ำนะคะ แต่ริมฝีปากค่อนข้างคล้ำนิดนึงค่ะ เป็นตามกรรมพันธุ์
(ชอบโดนแซวว่าดูดบุหรี่จัดหรอ TT^TT เค้าไม่สูบนะ)

นี่สีตอนที่ยังไม่ได้ทาลิปนะคะ ทาแต่ลิปบาล์มบำรุง

ขอเริ่มจากเปิดกล่องมาเลยน้า สวยงามมมม ❤

สีที่เราได้มามี 10 สี ตามรูปเลยค่ะ จับน้องเค้าถ่ายรูปหน่อย

 

มาดูกันทีละสีเลยค่า

เราทาจากแท่งโดยตรงตามที่แบรนด์แนะนำมานะคะ ไม่ได้ใช้แปรง

 

Ballerina Pink เปิดมาสีแรกก็ชอบเลยค่ะ ดูเป็นสีธรรมชาติ น่ารักๆ นู้ดๆ

Blush สีนี้ดูธรรมชาติกับสีปากเรามากกก คือเหมือนไม่ได้ทาเลยยย 5555 สำหรับวันที่อยากกใช้สีน้อยๆ

Rosebud ชอบสีนี้มากๆ ดูสวยแบบeffortless สวยแบบไม่ต้องพยายาม

Sweet Apricot สีนี้ในแท่งดูเหมือนจะเข้ม(ในรูปสีมันเพี้ยนนิดนึงนะคะ) ทาออกมาเป็นสีนี้เฉยเลย น่ารักดี พีชๆ ส้มๆ สดใส

Cosmic Peony สีนี้พอมาอยู่บนปากเราแล้วออกอมม่วงค่ะ ซึ่งเราก็ชอบนะ สีนี้คนผิวขาวน่าจะทาสวย

Coral Pop สีนี้ดูในแท่งออกแดงส้ม ทาออกมาก็ออกแดงส้มค่ะ 555 ตรงแท่งนะสีนี้

Bright Raspberry  สีคล้ายๆกับCosmic Peony นะ แต่นี่เข้มกว่านิดนึง

Black Plum แดงไวน์อมม่วงเข้ม สีนี้คุณนายมาก สีของเจ้ สีนี้มันใช่   สีนี้ดูแพง พี่รักมากกก

Citrus เพราะส้มก็คือส้มค่ะ ออกส้มเหลืองนะ เปรี้ยวปรี๊ด

 Beige Gold เก็บไว้ทาสุดท้าย และแอบไปแต่งตาเพิ่ม 555 เป็นสีที่เนื้อแตกต่างจากสีอ่นค่ะ เพราะจะมีประกายชิมเมอร์สีทองผสมอยู่ด้วย mega shine สุดพลัง สีแบบนี้ เอาไว้ทาทับสีอื่นๆ ที่เรารู้สึกว่าเข้มไป หรือใช้แทนกลอส ให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มก็ได้ค่ะ

(สีนี้เคยมีรุ่น Rich lip Color เนื่อจะแน่นกว่า ขายดีมากๆ ขายหมดตลอดดด ตัวนี้แทนกันได้ค่ะ)

 

อะเค Selfie จนหมดแรง 5555 มีสีไหนโดนใจกันบ้างมั้ยคะ

จากการทดทองใช้มาซักพัก เราขอสรุปตามนี้นะคะ

เนื้อสัมผัส : ชุ่มชื่น นุ่มลื่น บางเบา ไม่ตกร่อง
ความติดทน : สำหรับสีอ่อนๆไม่ทนมากค่ะ เพราะเนื้อลิปแบบนี้มันหลุดง่ายอยู่แล้วเนอะ แต่สำหรับสีสดๆ สีเข้มๆ ยังพอมีสีให้เห็นอยู่บ้างค่ะ
ความชุ่มชื้น : ข้อนี้รู้สึกแปลกใจมากค่ะ เพราะหลังจากที่เราเช็ดลิปสติกออกไปแล้ว แต่เรายังรู้สึกว่าปากเรานุ่มมากก ชุ่มชื้น เหมือนยังมีลิปบำรุงอยู่บนริมฝีปาก  และที่สำคัญไม่ลอกด้วยค่ะ เริ่ดจริงอะไรจริง

เพราะตั้งแต่เราทาตอนสวอชสี ปกติถ้าเราทาแล้วลบๆ หลายๆรอบนี่ปากจะต้อง ลอกและแสบแน่นอน แต่สำหรับลิปสติกรุ่นนี้คือ ยิ่งทา ยิ่งรู้สึกว่าปากนุ่มและได้รับการบำรุงจริงๆค่ะ เราเป็นแฟนLip Balm ของบ๊อบบี้บราวน์ อยู่แล้วค่ะ เพราะถ้าเจอลูกค้าปากแห้งปากลอก ตัวนี้เอาอยู่จริงๆค่ะ ทาไว้ชุ่มๆ ซักพักแล้วเอาทิชชู่เปียกเช็ดออกนะคะ ปากนุ่มมากค่ะ  (ขอบอกว่าเป็นสินค้าที่ขายดีมากๆๆๆๆๆ จากประสบการณ์ส่วนตัวของเราเลยค่ะ)

เราเอาไปให้คุณแม่เราลองใช้ คุณแม่ชอบมากค่ะ คุณแม่บอกไม่เคยเจอลิปที่ทาแล้วปากนุ่มไม่ลอกทั้งวันแบบนี้ จนตอนนี้คุณแม่ติดใจใช้ตลอดเลยค่ะ

รูปนี้คุณแม่เราทาสี Ballerina Pink  ค่ะ คุณแม่อายุ 60 กว่าแล้วนะคะ ปากไม่แห้งไม่ตกร่องขุ่นแม่ชอบบ

วันไหนที่เราอยากแต่งหน้าน้อยๆ เราก็จะทาสีSweet Apricot ให้ลุคน่ารักๆ ง่ายๆ

หรือบางทีก็ทาสี Black Plum ค่ะ

ขอบคุณน้องชายที่ถ่ายภาพหมู่สวยๆให้

ถ้าใครสนใจอย่าลืมไปแวะลองที่เคาน์เตอร์บ็อบบี้ บราวน์ทุกสาขาได้เลยค่า เมคอัพน่ารักทุกคน
เค้าจะมีจัดกิจกรรมMakeup Lesson อยู่ตลอด

เพราะบ็อบบี้เชื่อว่าด้วยองค์ความรู้และผลิตภัณฑ์ที่ใช่ ผู้หญิงทุกคนจะสามารถเป็นเมคอัพอาร์ทติสให้กับตัวเองได้ ในโอกาสที่วางจำหน่าย Nourishing Lip Color บ็อบบี้ บราวน์ขอเสนอกิจกรรมสุดพิเศษ Cheeks & Lips Makeup Lessons ที่เหล่าเมคอัพอาร์ทติสจะช่วยผู้หญิงเลือกลิปสติกเฉดสีที่ใช่ สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่เคาน์เตอร์บ็อบบี้ บราวน์ทุกสาขาทั่วประเทศค่ะ

วางจำหน่าย : พฤษภาคม 2016 ที่เคาน์เตอร์บ็อบบี้ บราวน์ทุกสาขา และช็อปปิ้งออนไลน์ที่ www.bobbibrown.co.th

ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ
หวังว่ารีวิวของไพจะมีประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนนะคะ

 

My experience with Scandinavian Makeup Academy Part 3

Hello part 3 is noww

มาต่อกันที่ภาค 3 นะคะ ไม่คิดเลยว่าจะกลายเป็นหนังไตรภาค จนได้

ภาคสุดท้ายนี้เราจะพูดถึง Class Fantasy และงานสอบล้วนๆเลยนะคะ

Fantasy Class Instructor  คือ Hilde Marie Johansen คือครูHilde เนี่ยเค้ามาจาก Norway ค่ะ เป็นทั้ง Designer และ Makeup Artist  ซึ่งเป็นคนที่มีความ Creativity สูงมากกกกกกก ชื่นชมมากกกก

แล้วยังน่ารักเป็นกันเองสุดๆค่ะ สไตล์การสอนของฮิลด้าคือให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองค่ะ หาแรงบันดาลใจจากสิ่งต่างๆรอบตัว ทุกอย่างล้วนเป็นInspirationได้ และต้องไม่ลองเลียนแบบใครค่ะ คิดเอง!

Be Original!

อันนี้โจทย์แรก เราจับฉลากได้รูปนี้ เป็นเหมือนน้ำแข็งย้อยในถ้ำ ขั้วโลกเหนือ ดูแล้วหนาววว

พอเราวาดFacechart เสร็จHildeเค้าก็จะถามค่ะว่าเราจะเริ่มจากอะไร ใช้product ตัวไหน แล้วก็แนะนำว่าถ้าเราต้องการแบบนี้ควรใช้อะไร จากนั้นก็ลงมือค่ะ

เราได้ออกมาเป็น Ice Queen ที่ออกแนวTribal นิดๆ เป็นราชินีเอสกิโมค่ะ

อันนี้พี่จ๋าแต่งเรา สนุกสุดตรงGlitters!! เข้าจมูกเข้าหูเต็มไปหมด 5555555

จิกเข้าไปค่ะ เอาให้แรรงที่สุด 55

วันค่อมาเรียนเรื่องลายPrint ค่ะ วิธีการสร้างลายจากวัสดุที่มีtexture และลวดลายต่างๆกัน

งูก็มา ตุ๊กแกก็มี

ชอบมากกก สนุกมากเลยค่ะ

วันนี้คู่กับแอนนา นางก็ทำไปบ่นไป เม้าไป แต่งานออกมาดีมากกกก

ของเราที่แต่งให้แอนนา แอบรีบไปหน่อย รีบตามนาง พอดีนางมีนัดหลังเลิกเรียน

วันต่อมาเรียนติดวัตถุบนใบหน้า การวางตำแหน่ง จัดวาง

อันนี้ผลงานน้องลิซ่าค่าจะบอกว่า เกล็ดเงินๆ บนเปลือกตาอันนั้นแข็งและเจ็บอย่างแรง ไม่รู้ทำไม เลยรีบเอาออกค่ะ

อันนี้ของเรา เอาจริงๆ คือ มั่วมากอยากให้งานดูDarkๆ หน่อย แบ๊วมาเยอะละ

ลิซ่าน่ารักมากก เป็นนางแบบได้เป๊ะมาก ให้อารมณ์แบบ พระจันทร์เศร้าๆ SAD MOON

รักนางเหมือนน้องสาวเราเลย

และวันนั้นครูก็แจกโจทย์ของงานจบให้ทุกคนค่ะ โดยมีTheme หลักคือ Element of Christmas

ทุกคนก็ได้ Candy cane, white christmas, angel silver, Golden star, Christmas tree, Chrismas in Wonderland บลาๆๆ พอมาถึงเรา เราได้นี่ค่ะ

Advent

ครือออ เดี๋ยวก่อน คืออะไรอ่ะ

นี่เราไม่รู้จักจริงๆ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน เลยไปถามเพื่อนฝรั่ง บางคนยังไม่รู้เลย
นางบอก “I have no idea about it”
เวลาแบบนี้แหละ ต้องพึ่งพี่กู Google

ได้ความแบบย่อๆว่า มันคือช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ ที่รอพระเยซูกลับมาจุติอีกครั้ง เค้าจะจุดบูชาเทียน 4 เล่ม
4 อาทิตย์ก่อนวันคริสมาสต์

เทียน 4 แท่ง แทนHOPE  LOVE  JOY PEACE

ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ทำให้นึกถึง Virgin Mary

โอเค story ดูมีอินเนอร์มีที่มา ดูอยู่ใน โบสถ์ ดูศักดิ์สิทธิ์ไปอี้กกก คือโจทย์เราจะแตกต่างจากทุกคนเลย ของทุกคนดูสนุกสนาน ช่วงเวลาแห่งความสุขมากๆ ขอเรานี่แบบ เอ่อ ขอเข้าโบสถ์แพ่พ
แต่ก็ยังมีกำหนดสีมาให้  คือสีม่วง และ สีทอง

ก่อนวันสอบ โรงเรียนเค้าจะมีShopping day คือพาไปซื้อทุกสิ่งที่เราต้องใช้ในการสอบ แต่ต้องมีเฟสชาร์ตก่อนนะ

ของเรานี่วาดหลายอันมาก เครียดสุด

มาจบที่อันนี้

ของที่ได้มา มีนี่ รูปหยดน้ำ

เอามาทำส่วนใต้คางลงมา

ช่วงเตรียมตัวก่อนสอบนั้น เครียดมากค่ะ บ้านนี่รกไม่ต้องพูดถึง กลิตเตอร์ สิทอง ปลิวว่อนเต็มบ้าน

ดูไม่จืดเลย ไม่รู้จะเริ่มจากครงไหนดี นอนไม่หลับ 55

เครียดจน ลองกะหน้าตัวเองซิ แมวคงคิด มนุษย์ไหวมั้ยย

วันต่อมา เค้าให้เราลองซ้อมแต่งก่อน 1 รอบค่ะ วันจริงจะได้ไม่เครียดมาก มีปัญหาอะไรจะได้แก้ได้
คู่กับแอนนา

เครื่องหัวต่างๆ ต้องเตรียมให้พร้อมค่ะ //ตอนนั้นเครียดดดมากกก คือจะทำไม่ทันแล้ว ความรู้สึกคือบ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย ฮิลด้าเลยมาช่วยติดเทียนให้ค่ะ

ไหนจะต้องมาพ่นสีทองนี่อี้กกก

ตัดภาพมาวันสอบเลย วันนั้นเรามีงานตอนเช้า ต้องรีบไปแต่งหน้ารับปริญญาก่อน แล้วค่อยมาสอบ คือเหมือนไม่ได้นอนอ่ะค่ะ สภาพ

การสอบFinal จะใช้เวลาทั้งวัน ช่วงเช้า ทำBaldcap ก่อน แล้วช่วงบ่ายค่อยทำงานFantasy

จะเห็นเบื้องหลังความงาม ต้องถือรัศมีให้นางแบบ 555

ของเรามีเทียนด้วยเเนี่ย ตื่นเต้นมากตอนจุดเทียน ชั้นจะไม่เผาตึกเค้าใช่มั้ยยย

อ้อ ต้องขอบคุณน้องชายเราที่มาช่วยถ่ายรูปเบื้องหลังให้ด้วยวันนั้น

ชอบรูปนี้ งานดูDarkนิดๆ โดยรวมก็ค่อนข้างพอใจ แต่ถ้าเราให้คะแนนตัวเอง เราคงให้ C+
เพราะน่าจะเก็บรายละเอียดมากกว่านี้ เวลายังเหลือ (ทำเสร็จก่อนเวลา) หักเครื่องหัวไม่น่าทำจากไม้กวาดเลย
น่าจะใช้ไม้จิ้มลูกชิ้นมากกว่า จะได้ไปโฟกัสที่ หน้ามากกว่านี้

ชอบรูปนี้สุดดด

ลองไปดูภาพบรรยากาศ ตอนสอบของเพื่อนๆกันค่ะ ทุกคนทำออกมาได้ดีมากกกกกก

มีเป็นเวอชั่นวิดีโอด้วยแหละ เก๋ๆ

 

แล้วก็มีวันถ่ายรูปProfessional Profile และรับใบCertificate ค่ะ

การตัดสินใจมาเรียนที่นี่ ทำให้ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆจากหลากหลายประเทศ ได้ฝึกภาษาอังกฤษต้อนรับAEC 555 และที่สำคัญได้เรียนในสิ่งที่เรารัก ทำให้3เดือนนี้ของเรา ผ่านไปไวจริงๆค่ะ
คอร์ส3เดือนที่Scandinavian Acadamy จะสิ้นสุดลงแล้ว จากนี้ก้าวต่อไป พวกเราก็จะเป็นMakeup Artist เต็มตัวกันแล้วค่ะ แต่สิ่งที่เราจะไม่หยุด คือการฝึกฝน และหาความรู้และประสบการณ์ เพื่อพัฒนาฝีมือตัวเองต่อไปค่ะ
เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคนนะ ฮึบๆ

This slideshow requires JavaScript.

 

จบแล้ววววววววววววววววววววววววว เย้ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ

หวังว่าโพสนี้จะมีประโยชน์สำหรับ คนที่มีความฝันเป็นช่างแต่งหน้าทุกคนนะคะ
ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเรียนรู้ หลายคนในคลาสคืออายุ 30 กว่ากันหลายคน มาจากหลายอาชีพ หมอ ทนาย แม่บ้าน นักบัญชี นักเรียน ทุกคนมาตามความฝันของตัวเองทั้งนั้นค่ะ
ที่นี่ไพได้ความรู้แบบอัดแน่นจัดเต็ม แบบที่อื่นไม่เคยสอน เป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าจริงๆค่ะ

ถ้าใครสนใจ ลองเข้าไปดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ และ facebook page  ข้างล่างนี้ได้เลยนะคะ

http://scandinavianmakeupacademy.com/

https://www.facebook.com/scandinavianmakeupstudio

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ❤
เจอกันโพสหน้า จะมีเล่าประสบการณ์หลังจากนี้ให้อ่านกัน
อย่าลืมติดตามน้า

ฺBYEE

Review BOBBI BROWN Nourishing Lip Color Oil-Infused Shine (ENG Ver.)

Hello there! 🙂 

Ok first of all this is my first english version on this blog. I start doing blog in english version because as you know i just finished coursethe International makeup course from Scandinavian Makeup Academy last year and my friends they want to know what i am talking about but they don’t know Thai at all . So guys I hope this english will help to understand me more 😆
Anyway I’m sorry my english is not that good it’s not my first language please understand me thank you 😊😊

Recently Bobbi Brown Thailand sent me thier new formular lipstick it’s called Nourishing Lip Color Oil-Infused Shine 

I’m so exciting!! 

Cr.BOBBI BROWN THAILAND

 Ok this is what brand say

Introducing Nourishing Lip Color Oil-Infused Shine, Bobbi’s new and modern take on lipstick. With a hand-selected blend of five deeply emollient natural oils and Vitamins C and E, this potent formula leaves lips with a super silky feel and luminous finish. The hybrid lip color delivers 24-hour sustained moisturization, hydration and conditioning, with a nutrient-rich formula that works continuously to make lips softer, smoother and plumper—even after it’s taken off

And as always this is Bobbi Brown’s word for her new lipstick.

“This formula combines pigments with an oil-infused base. It’s the perfect modern texture I love.”

— Bobbi Brown

How It Works

Instant & Long Lasting Moisturization

This highly nourishing solid lip oil is formulated with a blend of five natural plant oils and butters including an Olive Oil Complex, Avocado, Babassu, Jojoba and Cocoa Seed Butter, as well as Vitamins C and E, providing deep moisturization by creating a hydrating barrier that helps seal in moisture. Even the most parched lips are restored and left soft and nourished. Infused with oils that mimic those naturally found in the skin, Nourishing Lip Color helps condition and treat distressed lips instantly and over time, while helping to reduce the appearance of fine lines and wrinkles.

Brilliant Color

Rich color pigments are dissolved into a lightweight, clear oil base for pure, crisp color and a brilliant finish. Plus, it glides on effortlessly for even, tug-free application.

How to Apply: Apply straight from the tube on clean, bare lips.

Shades: Beige Gold, Almost Pink, Ballerina Pink, Blush, Desert Rose, Island Pink (APAC Only), Pink Pop (APAC Only), Uber Rose, Bright Raspberry, Pink Slipper (APAC Only), Citrus (APAC Only), Poppy, Suntan Pink, Claret, Berry, Black Plum, Cosmic Peony, Sweet Apricot, Rosebud, Coral Pop

1200 Baht

 Wow!! that’s 20 shades i want to try them all 😆😆😆
I’ll swatch on my own lips 

My skin color is light to medium but my lips color is a bit dark it’s my nature. Some people think it’s dark because I’m heavy smoker but actually i do not smoke🙄😑.

This is my bare lips only lipbalm.

Starting from open the box hehe ❤

I got 10 colors as you can see on the picture

 ok Let’s try one by one

I apply the lipstick directly on my lips same as the brand suggestion i didn’t use any brush.

Ballerina Pink  – natural nude pink ,soft pink

Blush – Natural Nude this color look exactly the same on my lips! Look like my bare lips but better! Perfect for makeup no makeup look😊

Rosebud – Soft plum i really like this color it’s look so fresh and effortless looking good with my skin color.

Sweet Apricot -soft peach This color look dark on picture but it look more paler on my lips that is so cute I love this color also. 

Cosmic Peony – bright neon pink but when it’s on my lips it’s look purple but i still like it tho.

Coral Pop  – bright coral  this color is same on the picture

Bright Raspberry  – this color is a berry pink look similar to Cosmic Peony but the tone is more darker 

Black Plum  – Dark purple redish color this color has a feeling like you just drink one glass of red wine 😀 so beautiful this is also my favorite color 

Citrus – Orange like an Orange lol how to explain this color it’s like yellowish orange 🍊🍊

 *Beige Gold – Shimmery golden beige Last but not least this color different from other because it’s have tiny golden shimmers so it’s mega shine(i added more eye shadow for match with this lip color 😆) for the color like this you can use on top dark lipstick to make it look more softer or use this instead lipgloss  to make the lips look more plumper.

(*This color also have in line Rich lip Color same color but the new formular texture is more moist I’m not sure that it’s limited edition or not but for my experience it’s bestseller and always out of stock!  If you cant not find the rich lip color one you can use this one instead 👍🏼)

Ok ! That’s a lot of selfie!! Lol which one you like? Tell me 

After I used these Nourishing Lip Color for a while this is my opinion 

Texture : Moist and soft easy to apply without using brush fullfill lips wrinkle
Long lasting color : for the soft nude color it’s not last long but it acceptable for this kind of lipstick and for the bright and dark color  after 4 hrs you still can see the color 
Moisture : this fact is amazed me !! Because after I remove it off i still can feel how soft and moist on my lips no dryness and my lips looks more plump like still have some treatment on my lips and one more thing no chapped lips at all !!!!

 I can feel this good point since firt time I use them normally when we do swatch on lips we have to apply and remove 10 time your lips might get burn from this action that’s not good for our lips for sure. But for  Nourishing Lip Color Oil-infused shine is different ! more you apply more soften your lips  👄👄

My mom tried on these lipsticks also and She super love it! She said “I never found a lipstick like this my lips become so soft and smooth all day long!” And yes she use it everyday😆 haha 

On this picture my mom wear a Ballerina Pink (mom is over 60 but her lips looks so plump)

If I want a easy minimal makeup I will wear Sweet Apricot for cute and cheerful look 

Sometimes I wore Black Plum (my favorite)

If your are interested in a want to try 

Do not hesitate to visit their shop they always has a Makeup Lesson for educate everyone about makeup.

Bobbi believes that every woman can be her own makeup artist with knowledge and the right products. In conjunction with the launch of Nourishing Lip Color, Bobbi Brown Cosmetics is offering* complimentary Cheeks & Lips Makeup Lessons with Bobbi-trained makeup artists to teach women how to choose the most flattering shades. Visit www.bobbibrown.co.th to find a nearby store or counter and to schedule an appointment.

Available: May 2016 at all Bobbi Brown Cosmetics Counters and at www.bobbibrown.co.th

I hope my review and my opinion are useful for you all 😘 

Thanks guys  

See you next Post 😉

Xoxo

Paiko ❤️

 

 

 

 

 

 

 

 

Roger Michel Fichmann meets Rocky Gathercole Workshop

Follow my blog with Bloglovin

สวัสดีค่ะ วันนี้ไพมีโอกาสมาเล่าประสบการณ์ให้อ่านกันอีกแล้ว

อย่างที่ไพเคยเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่จบมาแล้วทางโรงเรียนเค้าจะมีschool alumni เพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสไปฝึกฝีมือในสนามงานจริงนะคะ และไพก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมSMAร่วมงานครั้งนี้ด้วยค่ะ

Roger Michel Fichmann meets Rocky Gathercole Workshop in Thailand

ขอเกริ่นก่อนว่าคุณ Roger Michel Fichmann เป็นช่างภาพชื่อดังระดับโลก เค้าจะจัดWorkshop สอนถ่ายภาพและ สอนรีทัชภาพด้วย

ซึงสไตล์งานของเค้าจะเป็น NUDE ART ค่ะ คือเปลือยหมดเลย แต่ไม่ดูลามกอนาจารนะคะ เพราะผสานความเป็นแฟชั่นด้วย เมคอัพและคอสตูม ทำให้งานดูเป็นศิลปะภาพเปลือย และเป็นPop Art ด้วย
คุณโรเจอร์เค้ามีคนชืนชอบและติดตามผลงานเค้ามากมายค่ะ ซึ่งสามารถดูผลงานเพิ่มเติมได้ตามเว็บไซต์นี้เลยค่ะ
http://www.popartphotography.com/

และครั้งนี้ พิเศษมากค่ะ เพราะคอสตูมสวยๆ มาจาก คุณ Rocky Gathercole Costume Designerชาวฟิลิปปินส์ ชื่อดังระดับโลกเช่นกัน ดังขนาดไหน คนที่ใส่ชุดที่เค้าทำ ตัวท็อปทั้งนั้นค่ะ Britney Spears Katy Perry Paris Hilton (บทความ) ขอเชิญทัศนาได้จากเว็บของเค้าเลยค่ะ rockygathercoleatelier.com

ขอบอกว่างานนี้ ตื่นเต้นสุดๆค่ะ ได้ร่วมงานกับช่างระดับโลก

งานนี้ไปกับครูแอน ครูนิด พี่แดช และ พี่วาวค่ะ

เตรียมStation ให้เรียบร้อย

ครูแอนกับพี่แดชเริ่มแต่งแล้วค่ะ

สวดดยอดดดดด

ถ่ายกับRocky Designer ค่ะ

เอ๊ะคนนี้ก็นางแบบ? 5555 ครูนิด hairstylist คนเก่งของเราเองค่ะ

ตาเราบ้างๆ เราช่วยกันแต่งกับพี่วาวค่ะ คือปั่นsmokey eyes กันคนละข้าง555

แต่งไปก็เก็บภาพเบื้องหลังไปค่ะ 555

ครูนิดทำผมค่า

ได้ออกไปดูมาแว่บนึงง นางแบบโพสเก่งมากก

แต่งอีกคน ช่วยกันปั่นเหมือนเดิม

อันนี้หลังจากถ่ายรอบแรกเสร็จ เราก็ต้องมาติดGold leaf เป็นBody artด้วยค่ะ ให้ตรงกับคอนเสป  The Golden Treasury 4K

ของนางแบบคนนี้ก๋เช่นกันค่ะ ขอบอกเลยว่าเขินสุด แต่ต้องแอ๊บProfessional  5555
เรื่องติดให้เป็นหน้าที่พี่วาวค่ะ เราขอทากาวพอ ใช้แปรงทานะ555

 

มาดูตอนอยู่ในเซตกันบ้างง อลังสุดดดด

เบื้องหลังก็ต้องเอาGold leaf ไปโปรย รอบๆ

นี่เป็นภาพจากworkshop ที่retouch แล้วนะคะ

*ลายน้ำ#makeupbypaiko เพื่อสื่อว่าภาพมาจากblog เราเท่านั้นค่ะ*

** Credit ช่างภาพทุกท่าน ตามที่เห็นในภาพค่ะ**

ต้องขอขอบคุณครูแอน และ Hilde จากScandinavian Makeup Studio ที่เลือกให้ไพเป็นส่วนหนึงของงานนี้นะคะ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆค่ะ

เชิญชมวิดีโอ  The Golden Treasury 4K – Photography Workshop เลยค่า

Credits :POPART PHOTOGRAPHY youtube channel

A Photography Workshop by Roger Michel Fichmann and Rocky Gathercole

Models: Normal Fernandes / Ayya Azanova / Maria Klepchenko /Isarapon Makote

Designer/Stylist: Rocky Gathercole
Hair & Make up: Scandinavian Makeup Studio
Organizer: Elite Photo Art Studio Chakrit Chanpen, Tor Kolangcom, Kanya Pie
Video: Andrei Goldobenko and Daniel Maxwell
Location : BOXSHOT studio Bangkok

Special thanks to all the photographers who attended the workshop and gave their art work for the video.
Thanks also to Hilde Marie Johansen and Theeraporn Chasmal for supporting this workshop with your team!

ขอบคุณรูปภาพรีทัชสวยๆจากช่างภาพทุกคนจาก Roger Michel Fichmann Bangkok Workshop 2016 นะคะ

และขอขอบคุณรูปภาพเบื้องหลังสวยๆบางส่วนจาก ครูแอน ครูนิด และพี่แดชนะคะ<3

หวังว่าทุกคนจะชอบโพสนี้กันนะคะ ไว้จะมาเล่าให้ฟังอีกเรื่อยๆค่ะ

see you next time!

<3Paiko

My experience with Scandinavian Makeup school part 2

มาต่อกันเลยค่ะอย่าให้ขาดตอน

เปิดมาก็อลังเลยจ้า

อันนี้ระหว่างที่เรียนอยากอยู่เวลามีงานนักเรียนก็จะได้ไปฝึกด้วยค่ะเรียนรู้จากประสบการณ์จริงเลย

ช่วงที่เราเรียนตรงกับช่วงhalloween พอดี ทางKU DÉ TA เค้าก็มีspecial event โรงเรียนก็ไปแต่งหน้าให้สตาฟของที่นั่นเพื่อเพิ่มสีสันให้กับงาน

ซึ่งแต่ละคนจะได้รับโจทย์ไม่เหมือนกันนะคะ ของเราได้Cracked Doll version heavy metal 55  ก็ทำsmoky eye สีดำแดงเอาให้เต็มเบ้าเลยค่ะจัดไปตรงลายแตกๆใช้water paint สำหรับหน้าค่ะ

แต่งออกมาแล้วหน้าเหมือนกันเลยสตาฟที่เราแต่งให้เค้าชอบใหญ่เลย ดีใจที่เค้าชอบ

ต่อมาก็เป็นคลาสFashionค่ะเป็นคลาสที่เราชอบมากกก อยากเรียนมาก

เพราะเค้าจะสอนให้เราใช้จินตนาการเราหาinspiration ได้จากอะไรบ้างช่วงนั้นคือวาดfacechart กันรัวๆ

อันนี้เป็นซ้อมแต่งหน้าตาม reference คือต้องแต่งออกมาให้เหมือนเป๊ะๆเลยนะคะ คู่กับโรสค่ะ

อันนี้คู่กับ Sara เป็น perfume ad. คือเค้าจะเอาโจทย์มาให้แบบไม่มีหน้าค่ะ เราต้องออกแบบเอง ห้ามgoogleด้วย ของเราบังเอิญมาก ทึ่ออกแบบไว้กับของจริงใกล้เคียงกันมาก แต่ว่าSara เค้ามี tattoo eyebrow ก็เลยต่างกันนิดนึงค่ะ

ต่อมาเป็นแต่งหน้าตาม season เราได้ summer ค่ะงานนี้คู่กับโรส

  
อันนี้คู่กับพี่วาว โจทย์คือ makeup for cosmetic advertisement

ใช้วิธีจับฉลาก พี่วาวได้eyeshadow palette

สีสันมาเต็มจัดเต็มเลยจ้าาาา
ส่วนของเราจับได้nude lipstick   โอเค แอบผิดหวังนิดๆ อยากได้อะไรแปลกๆ5555 แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าเป็นลุคทึ่ได้ใช้เยอะสุด

 

อันนี้มีวันนึง เค้าขออาสาสมัครเป็นนางแบบ นี่รีบยกมือเลยค่ะ ลุค Avant Garde อาจารย์ชื่อ Stephen ค่ะ เป็นชาวอังกฤษ น่ารักมากกก ไนซ์มาก สอนละเอียดม้ากกกกกก และแต่งออกมาสวยมากด้วยค่ะ แต่งเสร็จไม่อยากล้างหน้าเลย

อันนี้ฝีมือเราเองค่ะ คู่กับพี่อ้อย  ที่หน้าผากเป็นสติกเกอร์นะคะ มีพี่คนนึงที่เค้าจบไปแล้ว ชื่อพี่บีม เค้าออกแบบและตัดมาให้ไม่ซ้ำกันซักอัน ประทับใจมาก ชอบๆๆ

ซึ่งที่แต่งวันนี้ ถือเป็นการซ้อมก่อนสอบไปในตัวค่ะ

ตอนสอบ นางแบบเรา ชื่อ เคียน่า น้องน่ารักมากกก แล้วดูการโพสสิคะ คือโปรมากอ่ะ 💜

ถามว่าสนุกมั้ย ให้ดูจากรูป 5555

ส่วนอันนี้คือภาพที่ถ่ายมาจากกล้องอีกทีค่ะ

  เบื้องหลังๆ

อาทิตย์นี้เป็น Theatrical makeup หรือstage makeup คือเป็นการแต่งหน้าสำหรับการแสดง หรือพวกละครเวที ที่ต้องมองเห็นจากที่ไกลๆค่ะ ทุกอย่างจะต้องชัด bold เพราะต้องการให้แม้แต่แถวหลังสุดก็ยังเห็นว่าแก้มเราสีชมพู!

ลุคที่สอนคือmarie antoinette และ geisha ค่ะความยากคือทำยังไงให้สีขาวดูเนียนสุด!

วันนี้ พี่จ๋าเป็น แบบสาธิตค่ะ น่ารักอ่ะะ

เราคู่กับโรสอีกแล้วค่ะวันนี้ คือไม่ว่าจะแต่งลุคไหน ดิชั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนยีนตัวเองได้นะคะ ออกมาเป็นทั้งมารีอังตัวเนตและเกอิชาพร้อมกันเลยค่ะ555

โรสแต่งออกมาแล้วดูใช่มากๆ ดูเป็น queen!

อันนี้ถ่ายกับน้องลิซ่า ชอบอ่ะ ดูใช่มากๆ55

วันนี้เรียน Show girls สอนโดย stephen อีกเช่นเคย น้องlisa เป็นแบบค่ะ

เห็นมั้ยคะเราเน้น ความปังของสี ความวาวของ glitters และ shimmers ✨

ให้นึกถึงหนัง เรื่อง Burlesque

คู่กับพี่จ๋าอีกแล้ว5555 ชอบวิกอันนี้มากเลย อยากได้ผมสีนี้

อ่ะ เปลี่ยน วิกนิสนึงง

I ❤️ Glitters

อันนี้เราแต่งพี่จ๋าค่ะ แต่งหน้าปกติเราจะลงสีชิมเมอร์อ่อนๆทึ่หัวตาใช่มั้ยคะ แต่Showgirls ชิมเมอร์มันน้อยไปค่ะ ต้องนี่! ติดเพชรไปเลยค่า ✨✨👍🏼

ไม่รู้ตอนนั้นคิดยังไง พยายามเติมดีเทลรูปดาวตรงใต้ตาให้ได้ ถ่ายรูปออกมาก็ไม่ค่อยเห็นอี้ก

แล้วก็มีงานสอบ อีกแล้ว เริ่มเรียง Timeline ไม่ถูก งง ไปหมดค่า

ของเรา ได้ลุค geisha ใส่หน้ากาก นางแบบคือ Emma เป็นชาวฟิลิปปินส์ค่ะ ที่เห็น2จุดนั่นคือไฝเค้านะคะ เก๋มาก

 

 
ชักภาพกันเล็กน้อยกับเพื่อนๆและครูแอน

คลาสต่อมาคือ Drag Queen คือ สอนโดย guest instructor Pan Pan หรือ Pagina Heals ซึ่งปกติ เค้าเป็นนักแสดง Drag Queen อยู่แล้วนะค่ะ แสดงที่ Sing Sing Theater

คือ ขุ่นพระช่วย โลกของ Drag นี่คืออีกโลกนึงเลยค่ะ ลืมทุกอย่างเกี่ยวกับเมคอัพปกติได้เลย

Forget all about normal make up Drag is another World!

คือการทุบโครงสร้างกหน้าแบบผู้ชายทิ้ง แล้วสร้างเบ้าหน้าใหม่ขึ้นมาเลยค่ะ. จากแบบนี้

มาเป็นแบบนี้ค่ะ Lady gaga ก็มาาา

และนี่คือผลงานเราค่ะ ที่แรกอยากให้ออกมาเฟียสๆ แต่งไปแต่งมา แบ๊วววเชอออ

ปันปัน เค้าสอนทำขนตาปลอมด้วยค่ะ ของเราก็ออกมาเป็นแบบมุ้งมิ้ง

ธีมคือ งิ้วอวกาศ

ชื่อเก๋ๆ คือ Futuristic chinese opera

ให้ดูหน้าฝั่งที่ลบออกแล้ว คือดีอ่ะค่ะ คือหล่อออ

แต่เห็นหน้าหล่อๆแบบนี้ตอนที่แต่งอยู่ เราก็ลืมไปเหมือนกันค่ะว่ากำลังแต่งผู้ชายอยู่ 5555

ซับเลือดซับน้ำลายค่ะทุกคน 555

เทคนิคเวลาแต่งหน้าผู้ชายไม่ให้เขินนะคะ ให้คิดว่า โอเคค นี่เรากำลังแต่งเพื่อนสาวอยู่55555

ขอถ่ายรูปกับปันปัน และ นายแบบนิดนึงค่ะ. ยังไงคะะ มีความเสียดายมั้ยค้าสาวๆๆ

ต่อมา ก็ให้ทุกคนลองออกแบบคาแรคเตอร์ ตัวละคร

อะไรก็ได้ค่ะ คู่นี้ทำ book of life กับงู

ของเรายังคงคอนเสปสาวแบ๊วค่ะ Manga Girl

จากงานของอาจารย์ Macoto Takahashi

นี่คือภาพเรฟค่ะ 
  
  

ออกมาเป็นแบบนี้ คู่กับ sara

ชอบมากสนุกมากก55555

ต่อมาเป็น คลาส special effect เป็นคลาสที่ชิลล์มากกกก สอนโดยครูแอน สโรชาค่ะ

คือเป็นคลาสทึ่ทุกคนแต่งตัวเหมือนไปวิ่ง หรือชุดนอนกันตลอด เพราะ ต้องการไม่ให้ชุดเปื้อนค่ะ

อันนี้แต่งหน้าแก่โดยใช้เทคนิค stretch and stripple ออกมาเหมือนม้ากกกก

คู่นี้เป็น hipster grandma lol

อันนึ้เรียนการติดhair บนส่วนต่างๆของหน้าค่ะ lisa is jinny in the bottle 😂

ที่สนุกคือไม่ใช่ว่าเราจะแต่งแก่อย่างเดียว หรือคิดผมไปอย่างเดียวนะคะ ครูแอนฝึกให้เราออกแบบ charactor ค่ะ คือต้องมีเรื่องราว ว่าคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ มีที่มาที่ไปค่ะ
อันนี้คือเฟสชาร์ต ตอนสอบค่ะ ของเราเป็นคนแคระ

ให้แซนดี้เพื่อนเรามาเป็นแบบให้ น่ารักมากกกกอ่ะ

เตรียมตัวมาอย่างดี ทั้งชุดทั้งพร้อพ

คนแคระเขินๆ5555

งานออกมาดีมากค่ะ ได้ 97/100 เลย ดีใจสุดๆ 😆

ต่อมาเป็นเรียนทำบาดแผลแบบต่างๆค่ะ

*คำเตือน* รูปต่อไปนี้อาจจะดูน่ากลัวนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ของจริงน้า เปนงาน special effect ล้วนๆค่า

แผลฟกช้ำ

นี่แผล โดนตบ แล้วหน้าไถลกับพื้น 555 โถพี่จ๋า

อันนี้งานครูค่ะ

อันนี้เรียกแผลอะไรจำไม่ได้ ดูเหวอะๆ จะเป็นลม

คู่กับธิดา

น้องดูตั้งใจมากกก ขาเจ้พื้นที่เยอะสินะ555

งานโดนยิงก็มา

แผลน้ำกรด

แผลไฟไหม้  

นี่งานสอบเราค่ะ บอกตรงๆ เราค่อนข้างกลัวเลือดค่ะ คือหนักใจมากจะออกแบบยังไงดี ให้เลือดน้อยที่สุด55 เดี๋ยวเถอะ ได้ข่าวว่าเรียน sfx

นี่เป็น  inspiration mood board ค่ะ

ให้อธิบายก็คือ เป็นสาวสวยคนนึง มึชีวิตรอดมาจากการต่อสู้กับเอเลี่ยนค่ะ แต่ว่าเธอโดนเอเลี่ยนกัด (จินตนาการว่าฟันแหลมๆเหมือนปลาน้ำลึก) แล้วเชื้อเอเลี่ยนกำลังจะกระจายเข้าสู่กระแสเลือด นางเอกของเรากำลังติดเชื้อและกลายพันธุ์ค่ะ

โอเคเรื่องยาวมาก อธิบายจนเหนื่อย55

บนหน้าก็จะมีรอยฟกช้ำจากการต่อสู้ รอยโดนกัดที่จะเริ่มเน่าๆ และรอยเส้นเลือดปูดๆที่ติดเชื้อเอเลี่ยน หูยสนุกมากค่ะ

อุปสรรคก็มีนะคะ ตอนแรกเราเครียดมาก เพราะว่ามือเรามันร้อนปั้นแว๊กซ์แล้วมันละลายค่ะ เราใช้3rd degree silicone ทำนะคะ มีเวลา 7นาทีในการทำรูปทรง เลือดจริงๆอยากทำเลือดสีน้ำเงิน แต่หาซื้อสีผสมอาหารสีน้ำเงินไม่ได้เลย เลยหยวนๆไปค่ะ

นางแบบเราสวยไม่น่ามาโดนอะไรแบบนี้เลย555

แต่ขอบอกว่าคุ้มมาก เพราะงานนี้เราได้คะแนน 100/100 เลยค่ะ ภูมิใจมากกกกกก ✨✨✨✨

ขอบคุณน้องเหมียวด้วยนะจ้ะ

มุมนี้น่ากลัวมากกกกกกก

ต่อมาเรียนทำbald capค่ะ

 เป็นอะไรที่ต้องใช้ความอดทนอย่างแรงงง ต้องนั่งtab tab tab ไปเรื่อยๆ
เพราะต้องทำbaldcap จาก latexด้วยตัวเองค่ะ วันนึงทำได้ 2อัน เอากลับไปทำที่บ้านด้วย ทำจนหลอนไปเลย5555 เพราะว่าเราต้องเอามาใช้ตอนสอบ final ด้วยค่ะ

นี่คู่กับแอนนา หน้าสวยยังไงก้อสวยเนอะ555

คิดถึงหนังเรื่องนี้ The skin I live in

ทุกคนทำออกมาได้ดีมากค่ะ

นี่ผลงานแอนนา ดีมากเลยอะ รู้เลยว่าถ้าเราบวชชีจะเป็นยังไง 55555
โอ้ยใกล้จบแล้วๆ คิดถึงเพื่อนทุกคนเลย

ขอตัดจบตรงนี้ก่อน พาร์ทสุดท้ายเป็นตอนคลาสแฟนตาซีและสอบจบเลยนะคะ ขอเวลาอีกไม่นาน (เพลงมา)

ขอบคุณทุกคนที่ช่วยแชร์และติดตามอ่านนะคะ ดีใจมากๆ ที่ทุกคนอยากอ่านต่อ

หวังว่าบล็อคของไพจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ชอบแต่งหน้านะคะ

❤️

My experience with Scandinavian Makeup Acadamy

สวัสดีค่ะ

นี่อาจจะผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็อยากจะเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับโรงเรียนสอนแต่งหน้าที่ไพได้ไปเรียนมา

นั่นก็คือ Scandinavian Makeup Acadamy (SMA)

เริ่มเลยเดิมทีไพเองก็เป็นช่างแต่งหน้าอยู่แล้วค่ะ เคยเรียนที่MTI มา1คอร์ส และก็มีประสบการณ์มาจาก Bobbi Brown อีก เกือบ 3 ปีค่ะ แล้วก็ลาออกมาตั้งใจว่าจะเรียนต่อป.โท ระหว่างนั้นก็ทำงานออฟฟิศใกล้ๆบ้านไป (งานออฟฟิศที่ทำก็สนุกไปอีกแบบนะคะ คนละอารมณ์กับงานในห้างเลย ทีแรกตื่นเต้นกับการได้หยุดติดกัน 2 วันมาก ถ้าใครที่ต้องทำงานเสาอาทิตย์หยุด 1 วันจะเข้าใจ)

จนเวลาผ่านมาล่วงเลยเกือบ 1 ปีค่ะ ยังอยู่ที่เดิมค่ะ รู้สึกคันไม้คันมืออยากแต่งหน้าทุกวัน จนกระทั่งเราไปเจอfacebook page ของโรงเรียน ตอนนั้นดีใจ ตื่นเต้นตาโตหัวใจเต้นแรงมาก 55

อันนี้แหละที่ชั้นจะเรียน ตัดสินใจแล้ว ลาออกเลย เดี๋ยวใจเย็นก่อน!

เพราะนี่เป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนชีวิตมากก

เพราะเท่ากับว่าระหว่างนั้นเราจะไม่มีรายได้ ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเงินเก็บ และจ๊อบเล็กๆน้อยๆ

เราเลยเข้าไปเยี่ยมชมโรงเรียนก่อนค่ะ โรงเรียนตั้งอยู่บนถนนอโศกนะคะ ตึกกสิกรไทย อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วโรฒค่ะ เดินทางไม่ยาก มาทางMRT หรือ BTS ได้
โรงเรียนอยู่ชั้น 4 นะคะ เดินขึ้นทีแรก หอบจะกิน 55 ตอนหลังคือ ดีขึ้น ชินแล้ว? ปล่าว ยังหอบเหมือนเดิม แต่น้อยลง 555

ที่SMA นี่เค้าจะช่วยนักเรียนทำPortfolio ด้วยนะคะ รูปที่เราแต่ง จะมีการถ่ายภาพเก็บเอาไว้ตลอดค่ะ ถ้าวันไหนสอบก็จะมีนางแบบอาชีพมาให้ หรือเราจะหาแบบมาเองก็ได้ค่ะ และก็มีใบCertificated ให้ เอาจริงๆเรารู้สึกว่า certificated ไม่สำคัญเท่าPortfolio เพราะเวลาใครจะจ้างงานเราเค้าต้องขอดู Portfolio ก่อนอยู่แล้วค่ะ แต่Certificateสำหรับเราก็คือ หลักฐานการเรียนจบแบบเป็นทางการ สวยๆ เอาไปตั้งโชว์55

และหลังจบแล้วเค้าจะมีSchool Alumni ไว้เพื่อส่งต่องานให้กับนักเรียนค่ะ ดีมากๆเลย ซึ่งจะมีทั้งงานVolunteer หรืออาสาสมัคร และงานที่ได้เงินจริงๆค่ะ คือสำหรับคนทีไม่มีประสบการณ์มาก่อน มันดีมากๆๆค่ะ เราก็ได้ไปกับโรงเรียนหลายงานเหมือนกัน ได้ไปเจอเพื่อนๆ เจอคนใหม่ๆ ได้ไปแต่งหน้าเก็บผลงานเอามาใส่ในพอร์ตอีก

โอเค ดีล! ชั้นจะเรียนๆๆๆ

หลักสูตรที่เราลงคือ Full course ค่ะ ระยะเวลา 3 เดือน อ่อ ลืมบอกไปที่นี่เป็นหลักสูตรอินเตอร์นะคะ ชีท ตำราการสอน การสอบทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวนะคะว่าจะไม่รู้เรื่อง เพราะที่โรงเรียนมีอาจารย์คนไทยด้วยค่ะ และอาจารย์ส่วนใหญ่เข้าใจภาษาไทยค่ะ นักเรียนก็ส่วนใหญ่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน พม่า กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซีย  รัสเซีย เวเนซูเอล่า อิหร่าน ว่าไป มาจากทุกมุมจริงๆ

เรานี่วันแรกๆบอกทุกคนเลยว่าภาษาชั้นไม่แข็งแรงนะ อาจจะพูดช้าหน้อย หรือฟังไม่ทันอะไรแบบนี้

ทุกคนก็บอกเหย Dont worry it’s ok คือทุกคนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 กันส่วนใหญ่ค่ะ ก็จะมีสำเนียงแต่ละประเทศต่างกันไป (ตอนหลังหรอหูย เม้ากันกันเป็นภาษาอังกฤษ มันไปอี้ก)

*คำเตือน* รูปเยอะมากกก

โรงเรียนก็จะมี Makeup Kit มาให้สำหรับคนที่เรียนฟูลคอร์ส

ที่เห็นในรูปคือ INEZ palette ประกอบด้วย แป้ง อายชาโดว ลิปสติก บลัชออน คือพิกเม้นดีมากกกก แป้งก็ดีงาม ลิปสีก็ดี สรุปคือดีหมดเลย แต่ชอบลืมใช้ เพราะมันหนัก สำหรับคนที่เรียนฟูลคอร์ส ถ้าคนไหนเรียนfundamental ก็ต้องเตรียมอุปกรณ์มาเองค่ะ และก็มีของส่วนรวมที่ใช้ร่วมกัน ที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแลเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

ถึงที่นี่จะเป็นโรงเรียนสอนแต่งหน้า ก็ใช่ว่าเราจะเรียนกันแบบชิลล์ๆนะคะ เราเรียนแบบเข้มข้นมากค่ะ เหมือนเข้าเรียนใหม่เลย ตำราหนาตึ้บ เข้าเรียน 10.00 เลิกประมาน 17.30 และทุกทีมีกฏค่ะ ห้ามมาสาย ห้ามใช้โทรศัพท์เวลาเรียน มีธุระต้องออกไปคุยน้อกห้อง ห้ามวิ่งในห้อง (555 มีเพื่อนชอบวิ่งโดนดุประจำ) แล้วข้อนี้ที่สำคัญมากคือ รักษาความสะอาด

คือที่นี่เป็นโรงเรียนแต่งหน้าที่แรกที่เรารู้สึกว่า สะอาดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

การใช้อุปกรณ์ทุกอย่างต้อง ฉีดแอลกอฮอล์ก่อน ต้องใช้พาเลตสแตนเลส กับไม้พาย ห้ามเป่าแปรง แปรงต้องสะอาด

หรือสอนแม้กระทั่งว่าเราทุกคนต้องมี ลูกอมมิ้น หรือผ้าปิดปากเวลาทำงานทุกครั้ง หรือสุขอนามัยส่วนตัวก็ต้องดูแล (จริงๆเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องดูแลกันอยู่แล้ว แต่ก็มีบางคนหลงลืมบ่อยๆใช่มั้ยคะ)

Everything Keep Clean and Hygienic!

ทุกวันก็เปลือยหน้ามาเลยนะคะ ไม่ต้องเสียเวลามาล้าง อีกรอบ เพราะช่วงที่ฝึกรอบบ่ายเราจะจับคู่กันแล้วผลัดกันแต่งหน้าค่ะ พยายามเปลี่ยนคู่บ่อยๆ จะได้ฝึกกับหน้าและผิวหลายๆแบบ 

มีกฏอีกข้อนึงคือ ห้ามนักเรียนด้วยกัน วิจารณ์งานของเพื่อนค่ะ เพราะแต่ละคนมีเทคนิคต่างกัน ฝีมือและประสบการณ์ต่างกัน คนที่จะสามารถให้คำแนะนำได้คือ ครูที่สอน และครูผู้ช่วยเท่านั้นค่ะ

ฉะนั้นวันไหนเราเจอเพื่อนเก่ง เราจะสวยและเราจะไม่ล้างหน้าค่ะ 55555
แต่ถ้าเจอในทางตรงกันข้าม ห้ามบ่นว่าไม่สวยเด็ดขาด 55555 แล้วค่อยไปล้างเอา

การสอนก็จะมีการสอนภาคทฤษฎีและทำdemo ในช่วงเช้าค่ะ พอช่วงบ่ายมาก็จะจับคู่กัน ผลัดกันแต่ง

ฝึกกันตั้งแต่เลือกสีรองพื้น อันนี้คู่กับPooja คนอินเดีย คือใต้ตายากมากกก คนอินเดียนี่เค้ามีสีเฉพาะจริงๆนะ

อันนี้คู่กับน้องธิดา เป็นคนกัมพูชาค่ะ

วันนี้คู่กับOlga eyeliner +red lips

คือเพื่อนเป็นนางแบบอยู่แล้ว แต่งนิดเดียวก็สวยแล้วอะ

ฝึกแต่งตา อันนี้พี่จ๋าแต่ง

Creative eyeliner

Evenning Look ลุคไปงานกลางคืนค่ะ

อันนี้เราแต่งให้เพื่อนคนอินเดีย

แล้วก็มีสอบค่ะ มีสอบข้อเขียนและปฏิบัติ น้องมิ้งมาเป็นนางแบบให้ Natural day look

Men Makeup /นายแบบหล่อมากคร่าาาา

แมวน่ารัก เจ้าของน่ารัก 555

 

Smoky eyes คู่กับแอนนา คนกัมพูชา พอสวยแล้วก็เซลฟี่เยอะตามระเบียบ

อันนี้จำไม่ได้ว่าหัวข้ออะไร น่าจะแต่งนักข่าว และก็ฝึกวาดFacechart

แต่งให้Cyntia สาวพม่า

ต่อจากนี้จะเริ่มแฟนตาซีขึ้นเรื่อยๆแล้วนะคะ เริ่มด้วยการ บล็อคคิ้ว!!

ดีใจมากคู่กับพี่จ๋าคนไทยด้วยกัน คุยกันรู้เรื่องสุดละ 555

เป็นไงคะ นวลลเนียนนน 555 โอ้ย กลัวว
อ่ะออกมาเป็นกังฟูแพนด้า555

เป็นการแต่งหน้ายุค 1920 ค่ะ อยู่ในคลาสMakeup History 
ตาเราเอาคืนบ้างล่ะ ฮิฮิ

เค้าเรียกว่า Flapper Girls ค่ะยุคGatsby คือเป็นยุคที่ทุกคน สวยและรวยมาก คือมันจะคอนทราสกัน เมคอัพหน้าก็จะเศร้าๆ คิ้วเส้นบางๆตกๆ สีที่ใช้ก็จะเข้มๆ ดาร์คๆ ยังเป็นยุคขาวดำอยู่ด้วย สีที่จะใช้ก็ต้องให้เห็น ไม่งั้นจะดูซีด ผิวก็ต้องขาวกว่าตัวไปอีกกก ปากก็ต้องเป็นheart shape จุ๊บุๆ ยุคGatsby

เห็นมะ พอปรับเป็นขาวดำแล้วดูธรรมชาติเลย 555
ตกใจเจอหน้ากันเอง 555

น่ารักแมะๆๆๆ 555 ทำหน้าเอือมกันเอง

ดูหน้าเรากับพี่จ๋าแล้วอาจจะไม่เกท มาดูหน้าคนที่เค้าแต่งแล้วขึ้นกัน 5555 แอนนาดูสวยมากลุคนี้

วันนี้เรียนยุค 1950 ทุกคนบิ้วอารมณ์กันสุดฤทธิ์ 55

คู่กับซาร่าค่ะวันนี้ pin up girl

วิกอันนี้เริ่ดมากเลยอะ รักก 555

ซูมที่ตานิด wing liner redlips beauty mark ครบค่ะ

ยุค1960 คู่กับน้องธิดาอีกล้าว

double liner + bright eyeshadow + false lashes + bottom lashes + nude lips and freckles!

มาถึงยุค 1980 ไม่มีคู่ คู่กับตัวเอง 5555 เป็นยุคที่ไม่คิดมาก สาดสีค่ะ สาดมันเข้าไป

และแล้วก็ถึงวันสอบค่ะ ไพได้ยุค 1920 แหม ถนัดเชอ 555 น้องเจนนี่นางแบบสวยมากกก ผิวดี้ดี

ความพิเศษคือ รูปงานสอบนี้ ถ่ายโดย Katherline Lyndia ช่างภาพหญิงไทยที่ไปดังระดับโลก คือน้ำตาจะไหล ชอบงานพี่เค้ามากกกกกกกก

ปลาบปลื้มมมมมมมม

ถ่ายคู่กับHilde ครูสอน Makeup History ❤

ต่อมาก็เรียนใช้Air brush makeup ค่ะ พร้อมกับเรียนแต่งหน้าเจ้าสาวไปด้วย

Classic Bridal (เบามากกกกกกกก)

Thai Bridal จัดเต็มทุกจุดค่ะ คนละเรื่องกับ Classic เลย

Indian Bridal คู่กับปูจ้าที่สัญญาไว้กันตั้งแต่ต้นๆคลาสว่าจะคู่กัน

แล้วทำไมฉันถึงเหมือนเจ้าแม่กวนอิม อาจจะเป็นที่เบ้าหน้า555

และที่โรงเรียนก็มีHair Class ซึ่งมีความดีงาม เพราะเราเป็นคนที่ทำผมงูๆปลาๆ ก็สามารถทำได้หลายทรงมากขึ้น
เวลารับงานก็โอเค หน้าผม ทำได้ค่ะ

นี่คือเดอะแก๊งไทยแลนด์ มีกันอยู่ 3 คน ไพ พี่จ๋า พี่วาว ขุ่นแม่ของหนู

เรารักหัวหุ่น

นี่คือครูนิด ครูสอนทำผมค่ะ ครูสอนทุกทรงให้ทำง่ายขึ้นมากกก เราทำได้หลายทรงเพราะครูนิดเลย ครูน่ารักและใจดีมากๆค่ะ

ทรงที่เราได้ทำช่วงที่เรียน

 

มีความภูมิใจกับทรงหัวม้านี้มาก 55555

ชอบเครื่องประดับ ดูมหาราณีม้ากกกกก

ณ จุดนี้ ไพขอลา ไปด้วยภาพมหาราณีก่อนนะคะ
เดวจะมาต่อพาร์ท 2 รับรองว่ามีแต่ความแฟนตาซี เว่อวังอลังการ
จะมีคลาส Fashion/Dragqueen/Showgirl/Theatrical stage/special effect /fantasy ที่ยังไม่ได้พูดถึงอีกค่ะ เท่านี้รูปก็เยอะมากละ 555

ปล. เรียน 3 เดือน รูป เกือบ 4 พันรูปค่ะ กลัวมาก งงมาก 555

 

Makeup Challenge : Smoky Eyes with Nude lips

กลับมาแล้ว เร็วมาก5555 

Makeup Challenge Themeวันนี้คือ สโมคกี้อายปากนู้ดเป็นลุคที่ทุกคนแต่งกันเยอะมากกกกกกทั่วโลก ใครไม่เคยแต่งนี่ไม่ผ่านหลักสูตรนะคะ ว่าไปนู่น 
ดังนั้นเราจะรออะไรคะจัดไปค่ะ

สโมคกี้อายปกติจะแต่งแต่ น้ำตาลทอง เทาดำอะไรแบบนี้ เห็นบ่อยแล้วเนอะ

ลุคที่ไพแต่งวันนี้ก็จะเป็นสโมคกี้ สีแดงๆ ส้มๆ ชมพูๆ เออสีงงๆนิดนึง อยากให้ดูเซกซี่นิดๆ แต่ก็แอบหวานเบาๆ ฟังดูเข้าใจยากเนอะ55

ชื่ออะไรยังไม่ได้ตั้ง เอาเป็น dark and sweet valentine ดีมั้ยคะ ตามประสาคนโสด /หดหู่มาก555

  
 หูยยรูปเปิดสวยมาก55555555 แน่นอนว่าผ่านแอพและฟิลเตอร์มาอย่างดีค่ะ5555

Before  

โอ้ยสิวอะไรเบอร์นั้นอ่ะดีนะยุบแล้วฮือ

After จวือปากนิดๆ 

  

หน้าดูเล็กลงเพราะใช้ผมคอนทัวร์ค่ะ 555  จริงๆนะคะ 

 
    จริงจริ๊งงงงง

เครื่องสำอางที่ใช้สำหรับลุคนี้ ตามนี้เลยค่ะ

1. Foundation : Kate  powderless liquid for Cover #BE-C
2. Concealer for dark spot : Mac studio finish concealer #NW25
3. Concealer for under eye : Mac studio sculpt concealer #NW20
4. Cream contouring : Coastal scents Camouflage palette #medium dark
5. Powder : Make Up For Ever super matte loose powder
6. Blusher : Sephora Sun disk bronzing powder #moyen medium 02 (ตัวนี้จริงๆเป็นbronzer ปัดผ่านๆเบาๆเพราะลุคนี้เราไม่ต้องการสีแก้มมาก)
7. Highlight : bobbi brown shimmer brick compact  #Nectar ปัดวนๆทุกสีที่โหนกแก้มและสันจมูก
8. Eyebrow : Daiso eyebrow pencil Eillipcal core #dark brown
9. Eyebrow mascara : mille 3D brow mascara #dark brown
10. Lips : wet n wild Megalast lip color #just peachy + L’oreal colour riche collection star Les Nudes#Jennifer Lopez B302 Barely Greige (on top)

• ปกติเวลาที่เราจะแต่งสโมคกี้อายหนักๆเราจะแนะนำว่าให้แต่งตาก่อนแล้วค่อยแต่งผิว เพื่อเวลาที่เราทำอายชาโดวหล่นลงมาใต้ตาจะได้เก็บงานง่ายๆ ไม่ต้องเสียเวลาทำผิวใหม่นะคะ
• หรือจะเอาแป้งฝุ่นกองๆไว้แล้วปัดออกทีหลังก็ได้ เหมือนกัน

แต่คราวนี้เราแต่งไปเลยจ้าเปรี้ยวมากก ใครมือใหม่ก้อระวังดีๆน้า

Step การแต่งตา ใช้อุปกรณ์เรียงตามลำดับแบบนี้เลย

1.Kajal : bobbi brown kajal liner #black

• ใช้ลงสีเพื่อเป็นเบสสำหรับสโมคกี้อายโดยเฉพาะ เปลือกตาบนเราเขียนคาจาลเท่าชั้นพับตาแล้วใช้หัวแปรงฟองน้ำเบลนด์ขึ้นให้ฟุ้งระยะไม่เกินเบ้าตา 
• หางตาเขียนwing ออกมาเป็นแนวนอนประมาน3มม. ขอบตาล่างเขียน2/3 จากหางตา
• ต่อมาก็ blend blend blend! ให้กระจายจากเข้มชิดขอบตา ฟุ้งขึ้นไปไม่ต้องสูงถึงโหนกคิ้วนะคะ

2. Eye primer : Essence i ❤️stage eyeshadow base

• ตัวนี้ใช้เก็บรายละเอียดใต้ท้องคิ้วหรือโหนกคิ้ว  ให้ดูสะอาดและถ้าใครเบลนด์สีดำสูงไปสามารถใช้ตัวนี้ช่วยเบลนด์ให้ซอฟลงได้

3. Eye shadow : Coastal scents 252  ultimate pallete eyeshadow /bobbi brown #toast

• ใช้สีแดงเข้มลงบริเวณ เหนือชั้นพับตาแล้วเบลนให้อยู่ประมาน2/3ไม่ต้องชิดหัวตามากพยายามเบลนออกมาด้านข้าง (สีจะออกมาเป็นน้ำตาลแดง)
• ใช้สีส้มเหลืองเบลนจากมุมด้านในตาขึ้นด้านบนและให้เชื่อมกับสีแดง
• ขอบตาล่างลงสีแดงเข้ม2/3 ใช้สีส้มเหลืองลงให้ฟุ้งกระจายออกมา 
• เบลนด์เชื่อมสีสโมคกี้กับสีสว่างใต้ท้องคิ้วด้วย สี toast
• ใช้แปรงangle eyeshadow ลงสีดำชิดขอบตาทั้งบนและล่าง
• หัวตา1/3ลงสีส้มอมชมพูแล้วเบลนให้กลืนกับด้านหลัง และใช้สีอ่อนสุดของShimerbrick nectar ทำไฮไลท์ของด้านในมุมหัวตา

4.  ดัดขนตาและติดขนตาปลอมทั้งบนและล่างขนตาล่างติดให้ห่างจากโคนขนตานิดนึง

5.  Mascara : L’oreal false lash architect 4D ปัดมาสคาร่าและดัดขนตาซ้ำอีกครั้งวิธีนี้จะทำให้ขนตาปลอมไม่บังตา

6.Eye liner : Mistine fixed liner เขียนเส้นไลเนอร์ด้านบนขนตาปลอมเพื่อให้ดูไม่มีรอยต่อ

   
 เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับลุคนี้นะคะ เข้าใจกันมั้ยสงสัยตรงไหนก็ถามได้น้า

รูปจากในไอโฟนสีจะตรงกับของจริงมากกว่านะคะ   

    
 
ค่อยๆเอียง5555ตอนถ่ายนี่ไม่รู้คิดอะไรอยู่ปวดคอมากกกกก

รูปตรงจะพอดูออกมากขึ้นมั้ยเอ่ย  

ไปดูรูปจากกล้องsonyกันค่ะเห่อออ เวลาอยู่ในกล้องนี้สีจะดรอปลงไปค่อนข้างเยอะเหมือนกัน

   
    
   
รู้สึกว่ามีอินเนอร์ที่เล่นใหญ่และรัชดาลัยมากๆ55555 บางรูปอินเนอร์แบบเย่อมาก คุณนายมาก
 อีกเซตนึงเราใช้แอพAfter lightแต่งสีใส่ฟิลเตอร์นิดๆหน่อยๆสนุกไปอีกกกก เชิญชม

   

    
 รูปสุดท้ายนี่ก้อบอกเลยว่ายอมใจตัวเอง

ร้ายอะไรเบอร์นั้นอ่ะ นึกว่าเป็นนางร้ายซีรี่เกาหลี แนวฆาตรกรรมหน่อยๆ แวมไพร์นิดๆ

After light เป็นแอพที่ดีมากทุกคนที่ชอบถ่ายรูปควรมีนะ (แอพไม่ฟรีนะคะแต่จำราคาไม่ได้ละ แต่ควรมีจริงๆนะ คุ้มมาก ย้ำ555)

วันนี้ไพสนุกมากๆกับลุคสโมคกี้อายสีน้ำตาลแดงส้มชมพู สีเยอะเนอะ555 ทีแรกก่อนแต่งนี่ก็คิดว่าตัวเองอยู่นะ 

ไพ เธอจะแต่งหน้าลุคที่ออกจากบ้านไม่ได้อีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย 

แต่ผลออกมาก็ออกจากบ้านได้อยู่ แต่งไปปาร์ตี้ แต่งไปเจอเพื่อนสาว ตอนไฟสลัวก็ได้ เราจะดูสวยมาก(เอ๊ะ) จบตรงนี้ดีกว่า55

ขอบคุณที่แวะเข้ามานะคะ

ปล.ถ้ามีอะไรแนะนำ หรือมีลุคไหนที่อยากให้ไพลองแต่ง ก้อคอมเม้นได้นะคะทั้งในเฟซบุ๊คและในบล็อคเลยค่ะ

Xoxo

Paiko